เทคนิคดูแลรักษารถยนต์ของคุณ สำหรับรถมือสอง ให้สภาพดีเหมือนใหม่

เทคนิคดูแลรักษารถยนต์ของคุณ สำหรับรถมือสอง ให้สภาพดีเหมือนใหม่

ไม่ว่าใครก็อยากให้รถที่ใช้ดูใหม่และสภาพดีอยู่เสมอ และสิ่งที่จะทำให้รถของคุณดูใหม่อยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นรถมือหนึ่งหรือมือสอง คือขั้นตอนในการดูแลรถของคุณนั่นเอง แต่สำหรับรถมือสอง คุณอาจต้องดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้รถยังคงสภาพดี เพราะรถมือสองผ่านการใช้งานมามากแล้ว และเราไม่รู้ว่าเจ้าของคนเก่าดูแลรถอย่างไร คุณจึงต้องให้ความสำคัญในการดูแลรถมือสองเป็นพิเศษ ด้วยวิธีการดังนี้

เทคนิคดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น

เทคนิคดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น 1

1. เช็กยาง

ก่อนที่คุณจะต้องเดินทางไกลก็อย่าลืมที่จะตรวจเช็กยางและลมยางทุกครั้ง ดอกยางไม่ควรจะสึกหรอ แรงดันของลมยางควรอยู่ในค่าปกติ เพราะยางรถยนต์นั้นมีผลต่อการควบคุมรถ รถที่ดีต้องมียางที่ดี เพื่อการขับเคลื่อนที่ราบรื่น หากยางรถของคุณไม่ดี อาจส่งผลให้ภาพรวมของรถคุณเกิดปัญหาได้

2.เช็กเบรก

การตรวจเช็กเบรก คือสิ่งสำคัญ ที่เป็นตัวช่วยให้การขับขี่ของคุณปลอดภัยมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยให้คุณรู้ว่าถึงเวลาที่คุณจะต้องเปลี่ยนผ้าเบรกแล้วหรือยัง ซึ่งควรจะตรวจเช็กในทุก ๆ ปี ยิ่งเป็นรถมือสอง ควรจรวจสอบเบรกและผ้าใบเบรกก่อนการซื้อขาย เพื่อความมั่นใจในการขับขี่ที่มากยิ่งขึ้น

3. เช็กที่ปัดน้ำฝน

แม้ว่าคุณจะไม่ค่อยได้ใช้งานที่ปัดน้ำฝนประจำแต่ก็ไม่ควรมองข้าม เพราะที่ปัดน้ำฝนมีอายุการใช้งานประมาณ 1 ปี เพื่อป้องกันอุบัติเหตุช่วงหน้าฝนควรตรวจเช็กให้ดีทุกครั้ง หากที่ปัดน้ำฝนทำงานได้ไม่ดี นั่นแปลว่าคุณจะสูญเสียวิสัยทัศน์ขณะขับขี่ท่ามกลางสายฝน และมีความเสี่ยงที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ เราไม่อยากให้คุณได้รับอุบัติเหตุขณะขับรถ การตรวจเช็กที่ปัดน้ำฝนจึงเป็นอีกสิ่งสำคัญที่คุณควรตรวจเช็กให้ดี

4. เช็กน้ำหล่อเย็น

คุณสามารถตรวจเช็กน้ำหล่อเย็น ขณะที่เครื่องยนต์ดับและเย็นลง หากนเไหล่อเย็นมีปริมาณลงลดมากเป็นไปได้ว่าเครื่องยนต์ของคุณกำลังมีปัญหา ซึ่งปกติแล้วน้ำหล่อเย็นควรจะอยู่ในระดับ full เสมอ หากพบความผิดปกติของน้ำหล่อเย็นในเครื่อง ควรนำรถเข้าอู่เพื่อให้ช่างตรวจสอบรถของคุณ เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาในตัวเครื่องที่จะเกิดขึ้นตามมา

5. เช็กน้ำกลั่นแบตเตอรี่

ตรวจเช็กในดีว่า ระดับของน้ำกลั่นแบตเตอรี่ควรจะอยู่ในตำแหน่ง UPPER LEVEL หากเติมมากเกินไปจะส่งผลให้ประสิทธิภาพการทำงานลดลง หรืออาจจะกระเด็นออกไปโดนชิ้นส่วนต่าง ๆ ในห้องเครื่องยนต์จนกัดกร่อนได้

6. เช็กน้ำมันเบรก/น้ำมันครัทช์

โดยคุณสามารถเช็กได้ด้วยสายตา โดยน้ำมันเบรกควรอยู่ที่ระดับ MAX เสมอ หากปริมาณลดลงเป็นไปได้ว่ามีการรั่วเกิดขึ้น ต้องรีบตรวจสอบ หรือนำรถไปให้ช่างดู เพื่อทำการตรวจเช็กและซ่อมแซม เพื่อลดอัตราการเกิดความเสียหายต่อตัวรถ และช่วยให้ประสิทธิภาพในการขับขี่ดีเหมือนเดิม

7.เช็กระบบไฟส่องสว่าง

สามารถตรวจสอบได้โดยการเปิดไฟทุกดวงเพื่อดูว่าทำงานปกติหรือไม่ หากพบว่ามีหลอดไหนไม่ทำงานควรนำรถเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กทันที ไม่เช่นนั้นการเดินทางในเวลากลางคืน อาจเกิดอันตรายและเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้

8. ถ่ายน้ำมัน ในทุกๆ 3-4 เดือน

คุณควรจะเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง เพื่อป้องกันการขัดข้องของเครื่องยนต์ ภายใน 3-4 เดือน หรือตามเลขไมค์ที่กำหนด หากระยะทางถึงแล้ว ไม่ว่าจะนานแค่ไหน ควรเปลี่ยนน้ำมันเครื่องเพื่อให้เครื่องยนต์ทำงานได้อย่างเป็นปกติที่สุด จะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

9. ตรวจเช็กสายพานรถ

ตรวจเช็กสายพานรถให้ดี ว่ามีปัญหาหรือไม่หากพบรอยแตกหรือหย่อนยานให้ทำการเปลี่ยนสายพานรถของคุณ ไม่งั้นจะเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในระหว่างการขับขี่ได้ เมื่อสายพานของคุณมีปัญหาแน่นอนว่าสิ่งที่จะตามมาก็คือเครื่องยนต์ไม่ทำงาน ดังนั้นคุณควรที่จะเช็กเป็นประจำ

(เรียนรู้เพิ่มเติม ต้องระวัง! ปัญหาที่เจอบ่อยขณะซื้อรถบ้านมือสอง)

เทคนิคดูแลรักษารถยนต์เบื้องต้น 2

บทสรุป

การตรวจเช็กและดูแลรถยนต์ของคุณอย่างสม่ำเสมอ จะช่วยยืดอายุการใช้งานรถยนต์ของคุณได้นาน และสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นรถยนต์มือหนึ่งหรือมือสอง การใส่ใจในส่วนนี้ถือเป็นเรื่องดีของผู้ที่ชื่นชอบการขับขี่รถยนต์อย่างแน่นอนเลือกซื้อรถบ้านมือสอง ราคาถูก คุณภาพดี ทีมงานเชี่ยวชาญด้านรถ พร้อมจัดส่งให้คุณได้ฟรี ทั่วประเทศ เลือกรถบ้านมือสองทั้งที เลือกที่ เสน่ห์รถบ้าน รับรองไม่มีผิดหวัง มีรถบ้านมือสองหลากหลายรุ่นให้คุณเลือก