ในฐานะที่เราเป็นตัวแทนจำหน่ายรถยนต์มือสอง รถยนต์ไฮบริดเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมาก ๆ ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการใช้งานรถที่มีความประหยัดน้ำมัน แต่ก็ไม่อยากได้รถยนต์ไฟฟ้า 100 % รถยนต์ไฮบริดถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจและมีการพัฒนามากกว่า 5 ปีแล้วในแต่ละแบรนด์ ซึ่งตอนนี้รถยนต์ไฮบริดมีระบบที่มีความเสถียรสูง สามารถใช้งานได้อย่างไม่มีปัญหา หลังจากที่เราศึกษามานานสำหรับ รถยนต์ไฮบริด มีข้อดีและข้อเสียของรถยนต์ เพื่อแบ่งปันสิ่งนี้ให้คุณได้เรียนรู้ เพื่อให้คุณมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนซื้อ
ทำความรู้จักกับรถยนต์ระบบไฮบริด (Hybrid cars)
มีหลายคนที่ยังสงสัยว่า รถยนต์ระบบไฮบริด (Hybrid cars) คือรถยนต์ไฟฟ้าใช่หรือไม่ บอกเลยว่าไม่ใช่รถยนต์ไฟฟ้า 100 % แต่รถยนต์ไฮบริดใช้พลังงานจากเครื่องยนต์สันดาปภายในปกติและมอเตอร์ไฟฟ้าตั้งแต่หนึ่งตัวขึ้นไปผสานการทำงานร่วมกัน ซึ่งใช้พลังงานที่เก็บไว้ในแบตเตอรี่ รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริดไม่สามารถเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จแบตเตอรี่ได้ แต่แบตเตอรี่จะถูกชาร์จผ่านการเบรกแบบจ่ายพลังงานซ้ำและโดยเครื่องยนต์สันดาปภายใน
การขับขี่บางครั้งของรถยนต์ระบบไฮบริดมอเตอร์ไฟฟ้าก็ทำงานได้ทั้งหมด บางครั้งก็เป็นเครื่องยนต์น้ำมันทำงานทั้งหมด และบางครั้งก็ทำงานร่วมกันทั้งไฟฟ้าและน้ำมัน ผลที่ได้คือการเผาไหม้ของน้ำมันเบนซินน้อยลง ทำให้รถยนต์ระบบไฮบริดจึงขึ้นชื่อว่าเป็นรถยนต์ที่ประหยัดน้ำมันได้มากถึง 50 % เลยนั้นเอง กระแสไฟฟ้าทั้งหมดมาจากชุดแบตเตอรี่ไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งถูกเติมเต็มโดยการกักเก็บพลังงานจากการชะลอความเร็ว ซึ่งโดยทั่วไปจะสูญเสียไปกับความร้อนที่เกิดจากเบรกในรถยนต์ทั่วไปนั้นเอง
รถยนต์ไฮบริดมีข้อได้เปรียบเหนือรถยนต์รุ่นที่ใช้แก๊สหรือน้ำมันเยอะมาก ๆ ช่วยให้คุณประหยัดเงินค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ลดการปล่อยมลพิษ และให้การขับขี่ที่นุ่มนวลยิ่งขึ้นอีกด้วย แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างเช่นกัน รถยนต์ไฮบริดมักจะมีราคาแพงกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป และอาจจำเป็นต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่บ่อยกว่า นอกจากนี้อาจไม่ทรงพลังเท่ากับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 100 % ซึ่งอาจจะไม่สร้างผลกระทบกับคนที่ขับรถใช้งานทั่วไปในเมืองที่ไม่ต้องการความเร็วสูงสุดในการขับขี่

บทความที่เกี่ยวข้อง รวมรถยนต์ไฟฟ้าขนาดเล็กน่าใช้ จาก Sanecars
ข้อดี-ข้อเสียของ รถยนต์ระบบไฮบริด (Hybrid cars) ก่อนตัดสินใจซื้อ
รถยนต์ไฟฟ้าอาจจะเป็นตัวเลือกใหม่ที่ดีที่สุดในการประหยัดน้ำมันในตอนนี้ แต่ก็ยังเป็นระบบที่ใหม่มาก ๆ ทำให้หลายคนยังไม่มั่นใจ แต่รถยนต์ไฮบริดถือเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยประหยัดน้ำมันได้เช่นกัน รถยนต์ไฮบริดก็มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่คุณควรพิจารณาก่อนตัดสินใจ ดังนี้
ข้อดีของรถยนต์ไฮบริด (Hybrid cars)
1.ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง ใช้น้ำมันลดลง
แน่นอนอยู่แล้วว่ารถยนต์ไฮบริดใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงร่วมกันเพื่อขับเครื่องรถยนต์ออกไป จะใช้พลังงานไฟฟ้าเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขับขี่ รถยนต์ไฮบริดสามารถประหยัดเชื้อเพลิงได้โดยการใช้พลังงานไฟฟ้าเพียงอย่างเดียวที่ความเร็วต่ำเช่นมือรถติด ขับรถในเมืองที่ขับได้ช้า ๆ และยังสามารถใช้มอเตอร์ไฟฟ้าเพื่อช่วยเครื่องยนต์สันดาปภายในภายใต้การเร่งความเร็วที่หนักขึ้นอีกด้วย ทั้งหมดนี้ช่วยลดปริมาณเชื้อเพลิงที่ใช้ได้เป็นอย่างดี
2. ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
รถยนต์ไฮบริดเป็นตัวเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้นสำหรับคนที่รักษาโลก เนื่องจากผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมลดลงและเผาพลานเชื้อเพลิงที่ลดลง ด้วยการใช้น้ำมันเบนซินน้อยลงและอาศัยไฟฟ้าเป็นพลังงานมากขึ้น ทำให้เครื่องยนต์มีการปล่อยมลพิษน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน 100 % ซึ่งจะช่วยลดมลพิษทางอากาศ ก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมที่ดีต่อสุขภาพ และเป็นข้อได้เปรียบที่ชัดเจนของรถยนต์ไฮบริดเมื่อเทียบกับรถไฟฟ้าในปัจจุบัน
3. ลดต้นทุนการบำรุงรักษา
ข้อดีอีกหนึ่งอย่างของรถยนต์ไฮบริดการบำรุงรักษาน้อยกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป ๆ รถยนต์ไฮบริดมีชิ้นส่วนที่เคลื่อนไหวน้อยกว่า และไม่ต้องการการบำรุงรักษาตามปกติในระดับเดียวกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน รวมถึงระบบเบรคด้วย เป็นผลให้เจ้าของรถไฮบริดสามารถประหยัดเงินในการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ปรับแต่ง และบริการอื่น ๆ ได้ นอกจากนี้รถยนต์ไฮบริดมักมีการรับประกันนานกว่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมัน
4. ราคาถูกกว่ารถยนต์ไฟฟ้า
แน่นอนว่ารถยนต์ไฮบริดนั้นมีการพัฒนามานานแล้วและมีรถไฮบริดออกมามากมายให้เลือกและกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากความคุ้มค่าเมื่อเทียบกับรถยนต์ไฟฟ้าที่ออกมาใหม่และยังมีราคาที่สูงกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับรถรุ่นที่มีขนาดใกล้ ๆ กัน ทำให้เป็นทั่วเลือกที่ดีมาก ๆ สำหรับคนที่กำลังอยากได้รถยนต์ที่มีความประหยัดน้ำมันและขับขี่ได้อย่างปลอดภัย

แนะนำรถยนต์ระบบไฮบริด Toyota Corolla Cross กับ Honda HR-V
ข้อเสียของรถยนต์ไฮบริด (Hybrid cars)
1. แพงกว่ารถยนต์น้ำมันทั่วไป
รถยนต์ไฮบริดอาจมาพร้อมกับความประหยัดในระยะยาว แต่คุณจะต้องจ่ายเงินเพิ่มหากเทียบกับรถยนต์ที่ใช้น้ำมันทั่วไป เพราะแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนไม่ได้มีราคาถูก และเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มีการพัฒนามาเพื่อให้น้ำมันกับไฟฟ้าทำงานรวมกันได้ จึงทำให้ราคาสูงกว่ารถยนต์ทั่วไปอย่างแน่นอน
2. อายุการใช้งานแบตเตอรี่อาจจะสั้นลง
เช่นเดียวกับแบตเตอรี่ในโทรศัพท์มือถือและแล็ปท็อปที่อาจจะมีการเสื่อมได้หากใช้ไปนาน ๆ แบตเตอรี่ในรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้าสามารถเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป ความจุและประสิทธิภาพของแบตเตอรี่อาจลดลงขึ้นอยู่กับการใช้งานหรืออายุของยานพาหนะ ทำให้เมื่อถือเวลาอาจจะต้องมีการเปลี่ยนแบตเตอรี่ซึ่งมีราคาสูง
3. ไม่สามารถจอดทิ้งวันนาน ๆ หลายวัน
จริง ๆ แล้วรถยนต์ไม่ว่าจะน้ำมันหรือรถไฮบริดจะต้องมีการขับเคลื่อนเป็นประจำเพื่อให้เครื่องยนต์ได้ทำงาน ถึงแม่ว่ารถไฮบริดสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องใช้น้ำมันเบนซินหรือดีเซลหากมีพลังงานไฟฟ้าอยู่ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าคุณควรละเลยการขับขี่หรือจอดทิ้งไว้นานหลายวัน หากรถไฮบริดไม่มีการชาร์จ มันจะประหยัดน้อยกว่ารถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยน้ำมันทั่วไปอย่างมาก
บทส่งท้าย
รถยนต์ไฟฟ้าไฮบริด (HEV) เป็นการผสมผสานข้อดีของทั้งเครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานที่เก็บอยู่ในแบตเตอรี่ สมรรถนะหลัก ๆ ที่ทำให้รถยนต์ระบบไฮบริดนั้นดีกว่ารถยนต์ทั่วไปคือการเบรกแบบจ่ายพลังงานใหม่ แหล่งพลังงานคู่ และรอบเดินเบาน้อยลง ทำให้ช่วยประหยัดน้ำมันมาก ๆ สามารถช่วยรถค่าน้ำมันได้มากถึง 30-50 % เลยทีเดียว ซึ่งหากลองคิดดูว่าเดือนหนึ่งต้องจ่ายค่ายน้ำมัน 5000 บาท แต่หากใช้รถยนต์ไฮบริด อาจจะเสียค่าน้ำมัน 3500-2500 บาทต่อเดือน
แต่อย่างไรก็ตามรถยนต์ระบบไฮบริดนั้นมีราคาที่สูงกว่ารถยนต์น้ำมันทั่วไปซึ่งแน่นอนว่าหลายคนไม่ได้มีงบประมาณเยอะขึ้นนั้น และไม่ต้องการผ่อนจำนวนมาก ๆ ด้วยความที่รถยนต์ไฮบริดนั้นมีจำหน่ายมาหลายปี ทำให้มีรถยนต์ไฮบริดมือสองที่คุณสามารถเลือกซื้อรถมือสองได้หลายรุ่นมาก ๆ ซึ่งสามารถเข้ามาเลือกดูรถมือสอง ระบบไฮบริด ได้ที่ เสน่ห์รถบ้านได้เลย